ความรู้ที่ได้รับ
วันนี้ อาจารย์มอบหมายใบงานความรู้มา แล้วให้สรุปส่งอาจารย์ในชั่วโมงเรียน ซึ่งสรุปเนื้อหาคร่าว ๆ ได้ดังนี้...
รูปแบบการเรียนรู้เด็กปฐมวัย
คุณลักษณะตามวัยของเด็กอายุ 3-5
ปี ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ.2546 มีดังนี้
เด็กอายุ 3
ปี
- พัฒนาการด้านร่างกาย
- วิ่งและหยุดโดยไม่ล้ม
- รับลูกบอลด้วยมือและลำตัว
- เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้
- ใช้กรรไกรมือเดียวได้
- วาดและระบายสีอิสระได้
- พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
- แสดงอารมณ์ตามความรู้สึก
- ชอบที่จะทำให้ผู้ใหญ่พอใจและได้คำติชม
- กลัวการพลัดพรากจากผู้เลี้ยงดู ผู้ใกล้ชิดน้อยลง
- พัฒนาการด้านสังคม
- รับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง
- ชอบเล่นแบบคู่ขนาน (เล่นของเล่นชนิดเดียวกัน แต่ต่างคนต่างเล่น)
- เล่นสมมติได้
- รู้จักรอคอย
- พัฒนาการด้านสติปัญญา
- สำรวจสิ่งต่าง ๆ ที่เหมือนกันและต่างกันได้
- บอกชื่อตนเองได้
- ขอความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา
- สนทนาโต้ตอบ/เล่าเรื่องด้วยประโยคสั้น ๆ ได้
- สนใจนิทานและเรื่องราวต่าง ๆ
- ร้องเพลง ท่องคำกลอน คำคล้องจองง่าย ๆ และแสดงท่าทางเลียนแบบได้
- รู้จักใช้คำถาม “อะไร”
- สร้างผลงานตามความคิดของตนเองอย่างง่าย ๆ
- อยากรู้อยากเห็นทุกอย่างรอบตัว
เด็กอายุ 4
ปี
- พัฒนาการด้านร่างกาย
- กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้
- รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสอง
- เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้
- ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้
- กระฉับกระเฉงไม่ชอบอยู่เฉย
- พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
- แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับบางสถานการณ์
- เริ่มรู้จักชื่นชมความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น
- ชอบท้าทายผู้ใหญ่
- ต้องการให้มีคนฟัง คนสนใจ
- พัฒนาการด้านสังคม
- แต่งตัวได้ด้วยตนเอง ไปห้องส้วมเองได้
- เล่นร่วมกับผู้อื่นได้ รอคอยตามลำดับก่อน-หลัง
- แบ่งของให้คนอื่น
- เก็บของเล่นเข้าที่ได้
- พัฒนาการด้านสติปัญญา
- จำแนกสิ่งต่าง ๆ ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าได้
- บอกชื่อและนามสกุลของตนเองได้
- พยายามแก้ปัญหาด้วยตนเอง หลังจากได้รับคำชี้แนะ
- สนทนาโต้ตอบ/เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง
- สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น
- รู้จักใช้คำถาม “ทำไม”
- พัฒนาการด้านร่างกาย
- กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้
- รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ด้วยมือทั้งสอง
- เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้อย่างคล่องแคล่ว
- เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
- ตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้งที่กำหนด
- ใช้กล้ามเนื้อเล็กได้ดี เช่น ติดกระดุม ผูกเชือกรองเท้า ฯลฯ
- ยืดตัว คล่องแคล่ว
- พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
- แสดงอารมณ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม
- ชื่นชมความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น
- ยึดตนเองเป็นศูนย์กลางน้อยลง
- พัฒนาการด้านสังคม
- ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
- เล่นหรือทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกับผู้อื่นได้
- พบผู้ใหญ่ รู้จักไหว้ ทำความเคารพ
- รู้จักขอบคุณ เมื่อรับของจากผู้ใหญ่
- รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย
- พัฒนาการด้านสติปัญญา
- บอกความแตกต่างของกลิ่น สี เสียง รส รูปร่าง จำแนกและจัดหมวดหมู่สิ่งของได้
- บอกชื่อ นามสกุล และอายุของตนเองได้
- พยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง
- สนทนาโต้ตอบบอกเล่าเป็นเรื่องราวได้
- สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นและแปลกใหม่
- รู้จักใช้คำถาม “ทำไม” “อย่างไร”
- เริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม
- นับสิ่งต่าง ๆ จำนวนมากกว่า 10 ได้
รูปภาพผลงาน
ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย (อายุ 3-5 ปี)
- ชอบที่จะทำให้ผู้ใหญ่พอใจ
- ช่วยตนเองได้
- ชอบเล่นแบบคู่ขนาน
- พูดประโยคยาวขึ้น
- ร้องเพลงง่าย ๆ แสดงท่าทางเลียนแบบ
- ชอบถาม "ทำไม" ตลอดเวลา
- อยากรู้อยากเห็นทุกอย่างรอบตัว
- สนใจนิทานและเรื่องราวต่าง ๆ
- มีช่วงความสนใจสั้น (8-10 นาที)
- พอใจคนที่ตามใจ
ทฤษฎีการเรียนรู้
- การทดลองของพาฟลอฟ : สุนัข (กำลังหิวจัด) เครื่องวัดน้ำลาย ผงเนื้อ และกระดิ่ง
- การทดลองของวัตสัน : เด็กชายอัลเบิร์ต อายุ 11 เดือน หนูขาว และเหล็ก
ภาพตัวอย่าง
- การทดลองของเมรีโจน (การวางเงื่อนไขกลับ) : ปีเตอร์ อายุ 3 ขวบ กลัวหนูขาวเหมือนอัลเบิร์ต
- ทฤษฎีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดค์ : ทฤษฎีลองผิดลองถูก การเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การทดลองของธอร์นไดค์
- การเรียนรู้ตามทฤษฎีของ Bloom (Bloom's Taxonomy) แบ่งการเรียนรู้เป็น 6 ระดับ
- ความรู้ที่เกิดจากความจำ (Knowledge) ซึ่งเป็นระดับล่างสุด
- ความเข้าใจ (Comprehend)
- การประยุกต์ (Application)
- การวิเคราะห์ (Analysis)
- การสังเคราะห์ (Synthesis) สามารถนำส่วนต่าง ๆ มาประกอบเป็นรูปแบบใหม่ได้ให้แตกต่างจากรูปเดิม เน้นโครงสร้างใหม่
- การประเมินค่า (Evaluation) วัดได้ และตัดสินได้ว่าอะไรถูกหรือผิด ประกอบการตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผลและเกณฑ์ที่แน่ชัด
- การเรียนรู้ตามทฤษฎีของบรูเนอร์ (Bruner)
- ความรู้ถูกสร้างหรือหล่อหลอมโดยประสบการณ์
- ผู้เรียนมีบทบาทรับผิดชอบในการเรียน
- ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความหมายขึ้นมาจากแง่มุมต่าง ๆ
- ผู้เรียนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง
- ผู้เรียนเลือกเนื้อหาและกิจกรรมเอง
- เนื้อหาควรถูกสร้างในภาพรวม
- การเรียนรู้ตามทฤษฎีของไทเลอร์ (Tylor)
- ความต่อเนื่อง หมายถึง ในวิชาทักษะ ต้องเปิดโอกาสให้มีการฝึกทักษะในกิจกรรมและประสบการณ์บ่อย ๆ และต่อเนื่องกัน
- การจัดช่วงลำดับ หมายถึง การจัดสิ่งที่มีความง่าย ไปสู่สิ่งที่มีความยาก ดังนั้น การจัดกิจกรรมและประสบการณ์ ให้มีการเรียงลำดับก่อนหลัง เพื่อให้ได้เรียนเนื้อหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
- บูรณาการ หมายถึง การจัดประสบการณ์จึงควรเป็นในลักษณะที่ช่วยให้ผู้เรียน ได้เพิ่มพูนความคิดเห็นและได้แสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องกัน เนื้อหาที่เรียนเป็นการเพิ่มความสามารถทั้งหมด ของผู้เรียนที่จะได้ใช้ประสบการณ์ได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ กัน ประสบการณ์การเรียนรู้ จึงเป็นแบบแผนของปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับสถานการณ์
หลักการ/แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
- แนวคิดของกีเซล (Gesell)
- พัฒนาการของเด็กเป็นไปอย่างมีแบบแผนและเป็นขั้นตอน เด็กควรพัฒนาไปตามธรรมชาติไม่ควรเร่งหรือบังคับ
- การเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหว การใช้ภาษา การปรับตัวเข้ากับสังคมกับบุคคลรอบข้าง
- ฟรอยด์ (Freud)
- ประสบการณ์ในวัยเด็กส่งผลต่อบุคลิกภาพของคนเราเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หากเด็กไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเพียงพอ จะเกิดอาการชะงัก พฤติกรรมถดถอย คับข้องใจ ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก
- อิริคสัน (Erikson)
- ถ้าเด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เด็กพอใจ ประสบผลสำเร็จ เด็กจะมองโลกในแง่ดี มีความเชื่อมั่นและไว้วางใจผู้อื่น
- ถ้าเด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี ไม่พอใจ จะมองโลกในแง่ร้าย ขาดความเชื่อมั่นในตนเองและไม่ไว้วางใจผู้อื่น
- เพียเจท์ (Piaget)
- พัฒนาการทางด้านเชาว์ปัญญาของเด็กเกิดจากการที่เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเด็ก มีการรับรู้จากสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และมีการปรับขยายประสบการณ์เดิม ความคิดและความเข้าใจให้ขยายมากขึ้น
- ดิวอี้ (Dewey)
- เด็กเรียนรู้โดยการกระทำ
- สกินเนอร์ (Skinner)
- ถ้าเด็กได้รับการชมเชย และประสบความสำเร็จในการทำกิจกรรม เด็กสนใจที่จะทำต่อไป
- เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ไม่มีใครเหมือนใคร
- เปสตาลอสซี่ (Pestalzzi)
- ความรักเป็นพื้นฐานสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาเด็ก ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา
- เด็กแต่ละคนแตกต่างกัน ทั้งด้านความสนใจ ความต้องการ และระดับความสามารถในการเรียน
- เด็กไม่ควรถูกบังคับให้เรียนรู้ด้วยการท่องจำ
- เฟรอเบล (Froeble)
- ควรส่งเสริมพัฒนาการตามธรรมชาติของเด็กด้วยการกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างเสรี
- การเล่นเป็นการทำงานและการเรียนรู้ของเด็ก
- เอลคายน์ (Elkind)
- การเร่งเด็กให้เรียนรู้แต่เล็กเป็นอันตรายต่อเด็ก
- เด็กควรมีโอกาสเล่นและเลือกกิจกรรมการเล่นด้วยตนเอง
สรุป หลักการจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย
" พัฒนาเด็กให้ครบทุกพัฒนาการ เน้นให้เด็กช่วยเหลือตนเอง และอยู่ร่วมกับผู้อื่น
อย่างมีความสุข กิจกรรมที่จัดต้องมีความสมดุล ยึดเด็กเป็นสำคัญ
และต้องประสานสัมพันธ์กับครอบครัวและชุมชน "
การเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง
- เรียนรู้โดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
- พัฒนาทักษะ การสังเกต การเปรียบเทียบ การจำแนก การสรุปความคิดรวบยอด การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ
- กิจกรรมโครงการ กิจกรรมประจำวัน การเล่น กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการศึกษานอกสถานที่ กิจวัตรประจำวัน ฯลฯ
คำศัพท์
Development = การพัฒนา
Community Development = พัฒนาการด้านสังคม
Learning Theory = ทฤษฎีการเรียนรู้
Continuation = ความต่อเนื่อง
Balance = ความสมดุล
การประยุกต์ใช้
- ครูสร้างบรรยากาศที่ดีในการเรียนการสอน อันเป็นการวางเงื่อนไขที่ดี
- ครูวางตัวให้ผู้เรียนเกิดความศรัทธา เพื่อผู้เรียนจะได้รักวิชาที่ครูสอนด้วย
- ครูจัดบทเรียนให้น่าสนใจและเกิดความสนุกสนาน ได้ทั้งความรู้ และความสนุกสนาน
- ก่อนที่จะดำเนินการสอน ครูจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมและกระตุ้นผู้เรียนให้พร้อมที่จะเรียนเสียก่อน
- มอบหมายงาน แบบฝึกหัด หรือการบ้านให้เด็กได้ฝึกหัดกระทำเพื่อให้บรรลุตามหลักสูตรที่ว่าให้คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น
- ใช้หลักการให้รางวัลและลงโทษ เพื่อให้รู้ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"
- นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมให้กับเด็ก ให้เหมาะสมกับวิธีการเรียนรู้และพัฒนาการแต่ละช่วงวัย
การประเมินผล
ประเมินตนเอง : ตั้งใจทำงานที่อาจารย์มอบหมาย ซึ่งสามารถทำได้เสร็จทันกำหนดส่ง มีความเข้าใจในเนื้อหาที่ตนเองสรุปได้พอสมควร
ประเมินเพื่อน : เพื่อนตั้งใจทำงาน และช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาซึ่งกันและกัน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์มีความรับผิดชอบมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาสอน แต่ก็มอบหมายงานมาให้นักศึกษาได้ทำ ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น