พุยพุย

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 10

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2559 เวลา 13.30-16.50 น.


ความรู้ที่ได้รับ
          อาจารย์นำกระดาษมาแจกโดยให้ทุกคนหยิบ 1 คน ต่อ 1 แผ่น จากนั้นอาจารย์ก็ให้ทุกคน เขียนขั้นตอนการประดิษฐ์ของเล่นที่ส่งเสริมประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย โดยนำเสนอผ่านแผนผังกราฟิก (โดยใช้มือ)


- ควรใช้ภาษาที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย
- ลูกศรควรไปในทางเดียวกัน เพื่อให้เข้าใจง่าย

          จากนั้น ก็ให้นำผลงานของแต่ละคนมาติดกระดาน หน้าชั้นเรียน



          กิจกรรมต่อมา อาจารย์ให้จัดกลุ่ม ๆ ละ 8 คน จะได้ทั้งหมด 4 กลุ่ม จากนั้นให้วางแผนดังนี้
  • เลือกของเล่นของสมาชิกในกลุ่มมา 1 อย่าง ที่เด็กปฐมวัยสามารถทำได้ง่าย 
  • ศึกษาวิธีการทำ วัสดุ-อุปกรณ์ต่าง ๆ 
  • แล้วออกไปนำเสนอหน้าชั้นเรียน
  • จากนั้นก็ให้ทำ VDO แนะนำชื่อของเล่น อุปกรณ์ และขั้นตอนในการทำ โดยนำเสนองานลงใน You Tube
ความรู้เพิ่มเติม
          
          แสงจากดวงอาทิตย์เป็นแสงขาว  ซึ่งประกอบด้วยแสง  7 สี  ผสมอยู่ด้วยกัน  เราสามารถใช้ปริซึมแยกลำแสงขาวออกเป็นแสงทั้ง  7  สีได้  โดยจะเห็นเป็นแถบของแสงสีทั้งหมดเรียงติดกัน เราเรียกว่า  สเปกตรัม (Spectrum)  ในธรรมชาติสิ่งที่มีสมบัติเป็นปริซึม  ได้แก่  หยดน้ำฝน  ละอองไอน้ำ  โดยภายหลังจากฝนตกเมื่อแสงแดดส่องกระทบหยดน้ำฝนหรือละออง ไอน้ำ  เราจะมองเห็นแสงแดดเป็นแถบสีทั้ง  7  สี  ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า  ที่เรียกว่า   รุ้งกินน้ำ  (ภาพที่  12.2) 
          สำหรับในอากาศหรือสูญอากาศ  แสงทั้ง  7  สี  จะเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็ว  3 x  108  เมตรต่อวินาที  เท่ากันทุกสี  แต่หากเคลื่อนที่ผ่านตัวกลาง  เช่น  แก้ว  กระดาษ  พลาสติก  แสงแต่ละสีจะมีอัตราเร็วในการเคลื่อนที่ไม่เท่ากัน  โดยจะมีอัตราเร็วน้อยกว่าการเคลื่อนที่ในสุญญากาศ(สุญญากาศ  คือ  บริเวณที่ว่างเปล่าปราศจากอากาศ)
          เมื่อแสงเคลื่อนที่จากอากาศไปยังตัวกลาง  หรือจากตัวกลางไปยังอากาศ  หรือเคลื่อนที่ผ่านตัวกลาง  2  ชนิด  จะทำให้อัตราเร็วของแสงและทิศการเคลื่อนที่ของแสงเปลี่ยนไป  เราเรียนว่า แสงเกิดการหักเห  ในตัวกลางที่หนาแน่นนั้น  แสงสีแดงจะเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าสีม่วง  ทำให้แสงสีแดงเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่น้อยกว่าแสงสีม่วง   ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการกระจายแสงสีขาวออกเป็น  7  สี  นั้นเอง


          
          เราอาจใช้แสงเพียง  3  สีรวมกันเป็นแสงขาวได้  เรียกว่า  สีปฐมภูมิ (primary colours)  ได้แก่  แสงสีน้ำเงิน  แสงสีเขียว  และแสงสีแดง  เมื่อมีปฐมภูมิทั้ง  3  นี้รวมกันจะได้แสงขาว   ถ้านำแสงสีปฐมภูมิ  2  สี  มารวมกันจะได้  สีทุติยภูมิ (secondary  colours)  ซึ่งแสงของสีที่จะได้จากการผสมสีทุติยภูมิจะมีความแตกต่างกันในระดับความเข้มสีและความสว่างของแสง



คำศัพท์

Diagram = แผนผัง
Secondary = ทุติยภูมิ
Primary = ปฐมภูมิ
Invention = การประดิษฐ์
Additional = เพิ่มเติม


การประยุกต์ใช้
  • ถ้าหากเราได้ไปสอนในโรงเรียนที่อยู่ตามชนบท อาจทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือสื่อเทคโนโลยีไม่มากนัก เราสามารถนำการเขียนแผนผังกราฟิกด้วยมือไปใช้ในการเรียนการสอนได้
  • ในการสอนเด็กปฐมวัย จะต้องกระตุ้นให้เด็กได้ตอบคำถาม เพื่อให้เด็กเกิดการคิด ซึ่งคำถามที่เราถามนั้นควรเป็นคำถามปลายเปิด เปิดโอกาสให้เด็กได้ตอบ ได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ไม่ปิดกั้นความคิดเด็ก เช่น การถามแบบตั้งประเด็นปัญหา ยกตัวอย่าง การส่งของไปอีกฝั่ง เราควรหาเครื่องทุ่นแรงอย่างไร โดยอาจใช้การประดิษฐ์ของเล่น เข้ามาเปรียบเทียบ ว่าของใครไปได้ไกลที่สุด เป็นเพราะอะไร ? เราต้องทำอย่างไร ? เป็นต้น
  • การแนะนำอุปกรณ์ในการทำกิจกรรม ครูควรตั้งคำถาม เช่น อุปกรณ์ที่เราเตรียมมา สามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้เด็กได้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย


การประเมินผล
ประเมินตนเอง : อาจจะมีพูดคุยหยอกล้อกับเพื่อนบ้าง แต่เมื่ออาจารย์มอบหมายงานก็ตั้งใจฟัง และทำตามที่อาจารย์บอก มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นภายในกลุ่ม และยินดีแลกเปลี่ยนจากกลุ่มอื่น ๆ ด้วย
ประเมินเพื่อน : เพื่อน ๆ มีความคิดที่แปลกใหม่ ให้ความร่วมมือให้คำปรึกษาซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกกลุ่ม
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ใจดีมาก ยืดหยุ่นมากขึ้น รับฟังความคิดเห็นและข้อคำถามจากนักศึกษา เป็นกันเอง และส่งเสริมให้นักศึกษาได้กล้าแสดงออกในการถาม หรือแสดงความคิดเห็น แล้วอาจารย์ก็จะแนะนำเพิ่มเติม




วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 9

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม 2559 เวลา 13.30-16.50 น.

ความรู้ที่ได้รับ

          วันนี้อาจารย์ติดราชการ จึงให้พี่ ๆ ปี 5 สาขาการศึกษาปฐมวัยที่ไปฝึกสอนที่โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสอนในหน่วย " อาหารดีมีคุณค่า " โดยพาทำอาหาร " ทาโกะยากิ "



          ก่อนเริ่มกิจกรรมนั้น พี่ ๆ ก็แนะนำตัว และพาร้องเพลงที่จะใช้ในการเตรียมความพร้อมเด็กก่อนเริ่มทำกิจกรรม ได้แก่



เพลง จิ้งจก

         จิ้งจกมันมี 4 ขา     อยู่ข้างฝาและบนเพดาน
กินแมลงเป็นอาหาร     บนเรือนบ้านที่อยู่อาศัย
ตัวเล็กกว่าตุ๊กแก     คอยชะแง้ร้องทักใครใคร
ออกลูกมาเป็นไข่     เก็บซ่อนไว้ไม่ให้ใครดู
จิ้งจก     จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊...

เพลง มากินข้าวสิ

มากินข้าวสิ     มากินข้าวสิ
กับดีดี     กับดีดี
มีทั้งแกงและต้มยำ
มีทั้งแกงและต้มยำ
อำ อ่ำ อำ อำ อ่ำ อำ


          การจัดกิจกรรมนี้ จะแบ่งออกเป็น 4 ฐานการเรียนรู้ โดยจะต้องแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็นทั้งหมด 4 กลุ่ม เพื่อทำกิจกรรมวนไปจนครบทุกฐาน (แต่ละฐาน ต้องมีครูหรือพี่เลี้ยงควบคุม ต้องสาธิต พาทำ และดูแลการทำกิจกรรมของเด็ก) ฐาน 4 ฐานมีดังนี้
  1. ฐานที่ 1 ให้วาดรูปวัตถุดิบ และอุปกรณ์
  2. ฐานที่ 2 หั่นวัตถุดิบ และเตรียมอุปกรณ์
  3. ฐานที่ 3 ผสมวัตถุดิบ และปรุงรส
  4. ฐานที่ 4 ทำทาโกะยากิ

วัตถุดิบ ได้แก่
  1. ไข่ไก่            
  2. ปูอัด             
  3. ฮอทด็อก 
  4. สาหร่าย
  5. แครอท
  6. ต้นหอม
  7. หอมหัวใหญ่
  8. กระหล่ำปลีม่วง
  9. ข้าวโพด
  10. ซอสราดทาโกะ
  11. ข้าว
  12. มายองเนส
  13. มาการีน
อุปกรณ์ ได้แก่
  1. มีด
  2. เขียง
  3. จาน
  4. เตาทาโกะ 
  5. ช้อน
          วัตถุดิบข้างต้นนี้ เป็นวัตถุดิบที่สมบูรณ์ แต่วันนี้ มีวัตถุดิบ ดังต่อไปนี้
  1. ปูอัด
  2. ไข่
  3. ข้าว
  4. แครอท
  5. หอมหัวใหญ่
  6. มะเขือเทศ
  7. เครื่องปรุง
  8. มาการีน (ถ้าไม่มี ให้ใช้น้ำมันพืชแทน)         



ขั้นตอนการทำทาโกะยากิ
          เมื่อพี่ ๆ อธิบายขั้นตอนการทำทาโกะยากิคร่าว ๆ แล้ว ก็เข้าสู่ขั้นสอนโดยมีขั้นตอน ดังนี้

    1.  ขั้นนำ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนทำกิจกรรมทุกครั้ง ควรมีการร้องเพลง เล่านิทาน หรือคำคล้องจอง เป็นต้น เพื่อให้เด็กได้มีสมาธิ จิตใจจดจ่อกับสิ่งที่กำลังจะทำ ซึ่งวันนี้ เป็นการใช้เพลง ในการเตรียมความพร้อมก่อนทำกิจกรรม เพลงที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารในวันนี้คือ เพลงอาหารดีมีประโยชน์ 


    ขั้นตอนการพาเด็กร้องเพลง มีดังต่อไปนี้
    - คุณครูร้องให้เด็กฟังก่อน 1 รอบ
    - ให้เด็ก ๆ ร้องตามครูทีละวรรค
    - ให้เด็กและครูร้องเพลงไปพร้อม ๆ กัน

              เมื่อร้องเพลงเสร็จแล้ว ให้ครูถามเด็ก ๆ ว่า ในเนื้อเพลงดังกล่าว มีอาหารอะไรบ้างที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และนอกเหนือจากในเนื้อเพลงแล้ว มีอาหารอะไรบ้างที่เด็ก ๆ รู้จัก

    2. ขั้นสอน อันดับแรกให้เด็ก ๆ สังเกต วัตถุดิบและอุปกรณ์ที่จะนำมาทำอาหารในวันนี้ และใช้คำถามให้เด็กได้สังเกต และตอบคำถาม เช่น ยกปูอัดขึ้นมา แล้วถามเด็ก ๆ ว่า "เด็ก ๆ รู้จักไหมคะ ว่านี่คืออะไร, ใครเคยทานบ้าง, รสชาติเป็นอย่างไร" ถ้าหากเด็กไม่รู้ ครูก็บอก และให้เด็กพูดตามครู เป็นต้น โดยต้องพยายามถามให้หมดทั้งวัตถุดิบและอุปกรณ์
              จากนั้น ให้บอกกับเด็ก ๆ ว่า "วันนี้ครูจะพาเด็ก ๆ ทำอาหาร เด็ก ๆ รู้ไหมคะ ว่าครูจะพาทำอะไร ? " (เปิดโอกาสให้เด็กได้ตอบ ได้แสดงความคิดเห็น) จากนั้นก็บอกว่า "วันนี้เราจะมาทำ ทาโกะยากิไข่ข้าว กันค่ะ"


              ในขั้นตอนการทำนั้น ครูสามารถบูรณาการวิชาอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น วิชาคณิตศาสตร์ (การนับ) ให้เด็ก ๆ ใส่แครอท 2 ช้อน ให้เด็กนับพร้อมไปกับครู และที่สำคัญคือ การให้เด็กทุกคนได้มีส่วนร่วมในการลงมือทำกิจกรรม ในทุก ๆ ขั้นตอน โดยขั้นตอนนั้นต้องไม่อันตรายต่อเด็ก ในส่วนของการปรุงรสชาติอาหารนั้น ห้าม! ใส่รสดีกับชูรส ควรใช้น้ำปลา หรือซอสแทน

    ภาพการทำกิจกรรม

    ฐานที่ 1 วาดรูปวัตถุดิบ และอุปกรณ์





    ฐานที่ 2 หั่นวัตถุดิบ และเตรียมอุปกรณ์





    ฐานที่ 3 ผสมวัตถุดิบ และปรุงรส






    ฐานที่ 4 ทำทาโกะยากิ





    ให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการทำทุกคน และสามารถพูดกับเด็ก
    ขณะที่ทำกิจกรรมเช่น ให้เด็กสังเกตว่า ถ้ากระทะร้อน มาการีนก็จะละลาย 
    พร้อมที่จะใส่ส่วนผสมลงไป และให้สังเกตหรือตั้งคำถามว่า 
    ตอนไหนถึงสามารถพลิกด้านได้หรือสังเกตว่า
    ทาโกะยากิเริ่มสุกแล้ว โดยให้เด็กสังเกตสีจะเริ่มเปลี่ยน





    ทาโกะยากิกลุ่มของพวกเรา อร่อยมากค่ะ >,<

              เมื่อเด็ก ๆ ทำกิจกรรมจนครบทุกฐาน ต่อมาก็คือ ขั้นสรุป
    3.  ขั้นสรุป  ขั้นนี้เป็นการทบทวนความรู้ หรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเด็ก ว่าสิ่งที่ได้ทำมานั้นเป็นอย่างไร ให้ประโยชน์อย่างไรกับเด็ก ๆ อาจจะเป็นการตั้งคำถามปลายเปิดให้เด็ก ๆ ได้ตอบ เช่น รสชาติทาโกะยากิของเด็ก ๆ แต่ละคนเป็นอย่างไรบ้างคะ ? หรือเด็ก ๆ คิดว่า ทาโกะยากิไข่ข้าวนี้ ให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไร ? เด็ก ๆ ได้ประโยชน์จากการทำกิจกรรมนี้อย่างไรคะ ? เป็นต้น
              เมื่อเด็ก ๆ ตอบแล้ว คุณครูอาจจะให้ความรู้เพิ่มเติม คำแนะนำต่าง ๆ เกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการของทาโกะยากิไข่ข้าว หรือคำแนะนำในการทำอาหารครั้งต่อ ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนหรือที่บ้าน ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพื่อเป็นการฝึกทักษะ ฝึกประสบการณ์ให้แก่เด็ก


              เมื่อทำกิจกรรมเสร็จ พี่ ๆ ก็ให้ตัวแทนของห้อง ออกไปนำเสนอหรือทบทวนว่า ขั้นตอนการสอนที่ได้ทำกิจกรรมมา เป็นอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ขั้นนำจนถึงขั้นสรุป เพื่อเป็นการทบทวนความรู้และพี่ ๆ ก็จะแนะนำเพิ่มเติมให้ในส่วนที่เรานำเสนอไม่ครบ

    คำศัพท์
    Takoyaki = ทาโกะยากิ
    Raw material = วัตถุดิบ
    Onion = หอมหัวใหญ่
    Benefit = ประโยชน์
    Demonstration = การสาธิต


    การประยุกต์ใช้
    • จากการที่พี่ ๆ ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้และพาทำกิจกรรม ทำให้ได้ทักษะในการสอนจริง ๆ ที่พี่ได้ไปฝึกสอนมา ซึ่งจะทำให้เราสามารถนำไปใช้ในการฝึกสอนในอนาคตได้จริง เพื่อให้การสอนนั้นถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
    • การฝึกทำอาหาร นอกจากจะใช้ในการสอนเด็กปฐมวัยแล้ว ยังสามารถนำไปฝึกทำรับประทานเองได้ อาจจะมีการต่อยอด เพิ่มเติมรสชาติให้ดีขึ้น และสามารถสร้างรายได้ด้วยการค้าขาย หรือการทำธุรกิจส่วนตัว

    การประเมินผล
    ประเมินตนเอง : ตั้งใจทำกิจกรรม และตั้งใจฟังพี่ ๆ ที่มาสอน แลกเปลี่ยนความรู้กัน มีความกระตือรือร้น มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมทุกอย่าง
    ประเมินเพื่อน : เพื่อน ๆ ตั้งใจเรียนและทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน ช่วยเหลือกัน มีส่วนร่วมในทุก ๆ กิจกรรม
    ประเมินอาจารย์ : เนื่องจากอาจารย์ติดประชุมจึงทำให้มาสอนไม่ได้ แต่อาจารย์ก็ยังเอาใจใส่นักศึกษา ไม่ให้เวลานั้นสูญเปล่า โดยการให้พี่ ๆ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์แทน และช่วงท้ายชั่วโมง อาจารย์ก็ยังแวะเข้ามาดูกิจกรรมการสอน ซึ่งทำให้รู้ว่า อาจารย์เป็นห่วงและเอาใจใส่นักศึกษาทุกคน
    ประเมินรุ่นพี่ : รุ่นพี่ทุกคนใจดีมาก เป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใส และให้คำแนะนำ ข้อคิดดี ๆ ในการฝึกสอน รวมถึงการเลือกโรงเรียนฝึกสอน สิ่งที่พี่ ๆ พาทำกิจกรรมในวันนี้ สนุกมาก สอนเข้าใจง่าย


    วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559

    บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 8

    วันอังคารที่ 27 กันยายน 2559 เวลา 13.30-16.50 น.



    สัปดาห์การสอบกลางภาค
    Midterm

    วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

    บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 7

    วันอังคารที่ 20 กันยายน 2559 เวลา 13.30-16.50 น.

    ความรู้ที่ได้รับ

    • อันดับแรก อาจารย์ให้คัดพยัญชนะไทย 44 ตัว แบบหัวกลมตัวเหลี่ยมเช่นเดิม 

    • แล้วอาจารย์ก็แจกกระดาษ A4 มาคนละ 1 แผ่น จากนั้นให้ทุกคนวาดเส้นตามรูปมือของตนเอง


    จากนั้น อาจารย์ก็ให้ขีดเส้นตัดรูปมือตนเอง โดยใช้สีอื่น

     

    และให้ขีดอีกเส้นหนึ่ง ให้ขนานกัน โดยใช้สีที่ต่างกัน


    " จากกิจกรรมนี้ ทำให้รู้ว่า เมื่อขีดเส้นตัดรูปมือ จะทำให้มือนั้นมีมิติมากขึ้น
    ซึ่งอาจจะนำไปสอนเด็กด้วยการวาดภาพให้เป็น 3D ในหน่วยร่างกาย เป็นต้น "

    • ต่อมา คือการส่งงานที่อาจารย์มอบหมาย นั่นคือ ภาพติดตา และภาพหมุน
    " ภาพหมุน "



    " ภาพติดตา "



    • จากนั้น อาจารย์ก็ให้นำของเล่นของตนเองที่ปรับเปลี่ยน หรือนำไปเพิ่มเติมมานำเสนออีกครั้ง แล้วอาจารย์ก็แนะนำเพิ่มเติม โดยการนำเสนอนั้น ให้ออกไปเป็นหมวดหมู่ เช่น เกี่ยวกับเสียง เกี่ยวกับอากาศ แรงหนีศูนย์กลาง แรงพยุง แรงดันอากาศ การถ่วงสมดุล แรงสะสม โมเมนตัม* เป็นต้น
    • *โมเมนตัม (P) หมายถึง ปริมาณที่บอกสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ ซึ่งพยายามทำให้วัตถุพุ่งตัวไปข้างหน้าในทิศทางของความเร็ว เป็นปริมาณเวกเตอร์มีทิศตามทิศของความเร็ว
      โมเมนตัมเกิดขึ้นเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ โมเมนตัมเชิงเส้น (Linear momentum) สำหรับการเคลื่อนที่แบบเลื่อนที่ และ โมเมนตัมเชิงมุม (Angular momentum) สำหรับการเคลื่อนที่แบบหมุน โมเมนตัมเป็นปริมาณเวกเตอร์ มีทิศทางเดียวกับความเร็วของวัตถุ สามารถหาค่าได้จาก ผลคูณระหว่างมวลกับความเร็วของวัตถุ จึงมีหน่วยเป็น กิโลเมตรต่อวินาที (kg : m/s)
    • กิจกรรมต่อมา อาจารย์เตรียมอุปกรณ์มาให้ทดลอง เกี่ยวกับน้ำ
    ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการเท่ากันในการวัดระดับน้ำ / น้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ 
    แรงดันจะทำให้น้ำพุ่งออกมา 



    • กิจกรรมต่อมา คือ การพับกระดาษ A4 ที่แบ่งครึ่งแล้ว แล้วตัดให้เป็นรูปดอกไม้ ตามใจชอบ





    จากนั้น ให้พับกลีบดอกเข้ามาหาศูนย์กลาง ทั้ง 4 มุม


    เมื่อนำไปลอยในน้ำ กลีบดอกจะค่อย ๆ บานออกอย่างช้า ๆ



    • จากกิจกรรมดังกล่าว จะทำให้เห็นว่า น้ำสามารถซึมเข้าไปในเยื่อกระดาษ ทำให้กระดาษขยายออก แต่ถ้าปล่อยนาน ๆ จะทำให้กระดาษจมได้ เพราะกระดาษที่น้ำซึมเข้าไปมีมวลน้อยกว่าน้ำในถาด


    • อาจารย์ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอของเล่นที่จะทำใส่ในมุมส่งเสริมประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ซึ่งอาจารย์ก็ให้คำแนะนำว่าควรทำอย่างไรให้มีความสมบูรณ์และบูรณาการได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
    • นอกจากนี้ อาจารย์ยังนำตัวอย่างของเล่นส่งเสริมประสบการณ์วิทยาศาสตร์มาให้เรียนรู้เพิ่มเติม ซึ่งมีรูปแบบการทำจากภาพติดตา และภาพหมุนนั่นเอง




    คำศัพท์
    Imagery carousel = ภาพหมุน
    Consonant = พยัญชนะ
    Drawing = การวาดภาพ
    Learn with attention = ตั้งใจเรียน
    As you like it = ตามใจชอบ

    การประยุกต์ใช้
    • สามารถนำตัวอย่าง หรือสื่อที่ตนเองได้ทำ ไปออกแบบสื่อการสอนของตนเองได้
    • เน้นการทำสื่อที่มีวัสดุ เทคนิค รูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดประสบการณ์ และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
    • ประยุกต์ใช้ในการผลิตสื่อที่หลากหลาย มีความน่าสนใจ โดยนำหลักการวิทยาศาสตร์เข้าไปประยุกต์ใช้ โดยให้เด็กได้สังเกต ได้เห็นความแตกต่าง ทดลอง และสรุปผลได้ด้วยตนเอง
    • พัดป๋องแป๋ง (ของเล่น) ที่นำเสนอ สามารถเปลี่ยนเป็นหน้ากาก หรือเป็นภาพหมุนได้  
    • จากกิจกรรม ลอยดอกไม้นั้น ทำให้เห็นว่า ในชีวิตประจำวันนำมาหลักการนี้มาใช้ เช่น มาม่า บะหมี่แห้ง การแช่เห็ด กระดาษทิชชู การอบแห้ง เอาน้ำออก เมื่อแช่น้ำก็จะให้อาหารสุก เป็นต้น
    การประเมินผล
    ประเมินตนเอง : ตั้งใจเรียน และตั้งใจทำกิจกรรม มาเรียนตรงต่อเวลา สนุกสนาน กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้
    ประเมินเพื่อน : เพื่อนตั้งใจเรียนและร่วมมือในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มีแนวคิดการนำเสนองานของตนเองที่หลากหลาย มีความน่าสนใจ
    ประเมินอาจารย์ : อาจารย์เอาใจใส่มาก อำนวยความสะดวกในการเตรียมอุปกรณ์ เตรียมตัวอย่างมาให้นักศึกษาดู พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักศึกษาคิดเอง ทำเองตามความเข้าใจก่อน แล้วค่อยแนะนำเพิ่มเติม